Sunday, June 12, 2016

ศึกษาวิธีการการนับเวฟของลุงโฉลกจากคลิปสั้นๆ




ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบดูคลิปลุงโฉลกมาก ประทับใจวิธีพูด เคล็ดลับที่แสนง่าย การนำเสนอวิธีการหาจังหวะเข้าเทรดแบบง่ายๆ เอาไปใช้ได้จริงตลอดเวลา

เมื่อมีโอกาสศึกษาอีเลียตเวฟก็พบว่าคลิปสั้นๆที่ท่านเคยแชร์หลายคลิปนั้น ท่านได้แทรกเคล็ดดีๆที่ช่วยให้เราเข้าใจวิธีการนับคลื่นได้ดีขึ้น เช่นดู RSI แท่งเทียน gap ประกอบ ซึ่งสังเกตุไม่ยาก สามารถเอาไปประยุกต์ใช้หาหุ้นได้ทันที

ที่สำคัญ ผมสังเกตุพบว่าทุกคลิปได้แทรกความรู้ในการ label เวฟได้ดีมากๆ เพราะผมชอบสังเกตุการใส่หมายเลขเวฟในกราฟที่ท่านยกมาเป็นเคส เหล่านี้แหละจะเป็นตัวช่วยไกด์ให้มือใหม่(อย่างผม)แกะรอยการนับเวฟได้ดีขึ้น

________________________________________________________________________________


ก่อนที่จะถึงคลิป ขอยกเอา Elliott wave ฉบับย่อมาให้อ่านเอาภาพใหญ่กันก่อน
(ผมคัดลอกเอามาจากกระทู้ของคุณม้าเฉียว จากเว็บดูหุ้น นะครับ) ขอแสดงความขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
ซึ่งเสียดายที่ภาพประกอบไม่มีให้เห็นอีกแล้ว

กฏของ Elliott wave ที่ลุงใช้มีอยู่แค่ 2 ข้อ คือ
1. Wave 3 ต้องไม่สั้นที่สุด และ
2. Wave 4 ต้องไม่ต่ำกว่า Wave 1

นอกจากนั้นก็มีข้อสังเกตุอีกไม่กี่ข้อ
1. Wave 1 มักจะประกอบด้วย 3 sub-waves,
2. Wave 2 มักจะลงยาวเป็น A-B-C ชัดเจน และ
3. Wave 4 ลงเร็วแล้วต่อด้วย Sideway sub-waves 1-2 ของ Wave 5

Elliott wave ประกอบด้วย 2 ส่วนที่สำคัญเสมอ คือ
1. Pattern Recognition (คือ ขาขึ้นมี 5 Wave 1-2-3-4-5 ขาลงมี 3 Wave A-B-C) และ
2. Fractals เป็นการกำหนด Degree (แบ่งความลึกลงได้ 7 ระดับ ตามภาพด้านล่าง) ซึ่งคนส่วนมากจะพลาดที่ตรงนี้มากที่สุด


ส่วนวิธีนับแบบละเอียดก็ตามด้านล่างเลยครับ ส่วนใหญ่ก็รวบรวมมาจากวิธีที่คุณลุงโฉลกสอน + ที่อื่นๆ อีกนิดหน่อย + สรุปจากประสบการณ์การนับ wave ของตัวเองด้วยครับ มีดังนี้
- ยอด RSI แต่ละรอบจะอยู่ที่ 3 กับ B (ของรอบใหญ่) เสมอ
- เพราะฉะนั้นการจบ 5, Peak อยู่ที่ 3 เกิด Convergence แล้ว Crash เป็น A-B-C
- กรณีจบรอบใหญ่ (การจบ A-B-C, C จะต่ำกว่า A เยอะๆ เลย ตาม Fibo)
- จาก 5 ลงมา A เท่าไหร่ก็ได้ไม่มีกฎตายตัว แต่จาก 5 ลงมา A เด้งไป B = 61.8%
- (ถ้าเป้านั้นๆ เช่น 61.8% รับไม่อยู่ เป้าต่อไปจะเป็น Square root ของเป้าก่อนหน้า Ex. 61.8% => 78.6% => 88.6%)
- แล้วจาก A ไป B ลงมา C เท่ากับ 161.8, 261.8 ++ แล้วแต่ความแรงความ Panic sell
- ถ้าวัดจากฐาน 1 มายอด 5 ของการจบรอบใหญ่ Wave c มักจะลงลึกเท่ากับ 78.6%
- จาก 5 ลงมาจบที่ C แล้วเด้งไปที่ 1 = 61.8% (กรณีขึ้นรวดเดียวไม่ถึง ให้เอาก้านธง จาก 1 ย่อยกับ Prev.low มากำหนด Target ได้)
- Wave 1 มา 2 ไม่ใช่ Correction ใหญ่ ปกติจะลงมาที่ 38.2% แต่ส่วนมากไม่เกิน 50%
- Wave 1 จะไป 3 หรือ 5 อย่างต่ำต้องขึ้นไปอีก 161.8 (127.2 เป็นจุดพัก), ถ้า Bullish มากจะไปถึง 261.8 และ 423.6 ++
- (Step การขึ้นจะทะลุ 61.8 ขึ้นไปก่อนอย่างง่ายดาย ถึงจะไปที่ 161.8 ได้ ถ้าติดที่ 100% จะเป็น Double top ซึ่งเเป็นกรณีที่กิดขึ้นได้ยาก)
- Wave 3 มา 4 Correction อาจลงมาถึง 61.8% แต่ไม่เกิน 78.6%
- Wave 4 ลงไม่ถึงยอด Wave 1 เสมอ
- ความกว้างของ Correction A-B-C ของ Wave 5(เก่า) ไม่ควรยาวกว่า Correction a-b-c ของ Wave 3(ใหม่)
- เมื่อราคาไปถึงตามเป้าหมายแล้วให้ใช้ Momentum oscillator ช่วย ก็จะเห็น Bearish Convergence/Divergence
- ประกอบกับการเกิด Reversal signal (Price pattern/Candle stick) เพื่อระบุจุดเปลี่ยนเทรน

รายละเอียดเจาะลึกลงไปอีก เช่น
- sub wave 1-2 ของ wave 1 มักจะลงลึกที่ 78.6% เพราะ มันต่อมาจากการจบ Correction ใหญ่ คนยังไม่แน่ใจว่ารอบก่อนมันลงจบแล้วหรือยัง
- ส่วน sub wave 1-2 ของ wave 3 มักจะลงไม่ลึก เพราะขึ้นชื่อว่า wave 3 พวก smart money และอื่นๆ พร้อมเข้าใส่กันเต็มที่ คนอื่นๆ กลัวตกรถ ต้องรีบช้อน
- wave 5 เป็น wave ของแมงเม่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ แหกกฎได้หมดทุกอย่าง มั่วชั่ว อย่าไปสนใจมาก


กฎของลุงโฉลก
- Wave 3 ต้องไม่สั้นที่สุด และ Wave 4 ต้องไม่ต่ำกว่า Wave 1
- Wave 1 มักจะประกอบด้วย 3 sub-waves,
- Wave 2 มักจะลงยาวเป็น A-B-C ชัดเจน และ Wave 4 ลงเร็วแล้วต่อด้วย Sideway sub-waves 1-2 ของ Wave 5 อื่นๆ
- แต่ถ้า Wave 2 เกิด Complex คือไม่ลง a-b-c แล้วจบเลย แต่อาจเล่น sideway ยาวออกมา
- ใน Wave 4 มักจะไม่เกิด Complex เหมือน 2 (ถ้า Wave 2 simply, Wave 4 จะ Complex แทน)
- ตามทฤษฎี Wave 3 ต้องไม่ใช่คลื่นที่สั้นที่สุด และควรจะยาวครับ หากไม่ยาว คือมีขนาดพอๆกับ Wave 1 แล้ว Wave 5 มักจะเป็น extended wave 5 หรือมีการต่อคลื่น คือขึ้นคลื่นชุดย่อย(แต่ ใหญ่) ขยายความยาว Wave 5 ออกไปอีก
- ถ้า Wave B เด้งแรงมากแล้วขึ้นไปเกินกว่า Wave 5 ให้รีบถอนตัวโดยเร็วที่สุด (Wave C มหาโหดกำลังจะตามมา)

เพิ่มเติมตัวอย่าง จากที่คุณลุงโฉลกอธิบายใน CDC Articles: Feb 9, 2012 - Veto ดังนี้ครับ
1. Peak RSI จะตรงกับ Wave 3 ในระดับใดระดับหนึ่งเสมอ
2. Wave 3-4 มีลักษณะที่น่าสนใจมาก ตลาดจะเคลื่อนไหวเป็น Sideway movement (เกือบจะ) เสมอ กล่าวคือ Wave 3-4 จะตามมาด้วย Sub-Wave 1-2 ของ Wave 5 ซึ่ง Peak ของ Sub-Wave 1 จะต่ำกว่า Peak ของ Wave 3 และ Through ของ Sub-Wave 2 จะสูงกว่า Through ของ Wave 4 (เกือบจะ) เสมอ
3. ปลายของ Wave มักจะประกอบด้วย Diagonal Triangle โดยมี Wave 4 overlap Wave 1
4. Wave 3-5 มักจะเกิด Bearish C/D และ Sub-Wave 3-5 ของ Wave C มักจะเกิด Bearish C/D
"หา Chart Pattern ที่ชัดเจน Corrective Wave 3-4 จะตามมาด้วย Side way Sub-Wave 1-2 ของ Wave 5 เสมอCorrective Wave ที่ไม่ตามด้วย Sideway จะเป็น Either Wave 1-2 หรือจบ Wave 5"

________________________________________________________________________________

มาถึงคลิปที่ว่า........หลายคลิปเหล่านี้น่าจะเคยผ่านตาทุกคนมาหมดแล้วล่ะ แต่ขึ้นอยู่กับว่าใครจะสะดุดและเอาไปใช้ประโยชน์ได้แค่ไหนเท่านั้นเอง มีดังนี้

- Uncle Chaloke SET Index 20150326 ท่านใช้ทฤษฎีอีเลียตเวฟมาเช็คว่า SET จะไปทางไหนต่อ โดยตั้ง scenario ที่แตกต่างกันเพื่อหาจุดที่ลงตัวและเป็นไปได้ที่สุด ซึ่งมันครบถ้วนมาในด้านของการใช้ทฤษฎีเวฟหลักมาตีความ เช่นเวฟสามต้องไม่สั้นที่สุด ถ้าสั้นกว่าเวฟหนึ่งแล้วเวฟห้าก็ต้องสั้นกว่า รวมทั้งการใช้ฟีโบนาชีมายืนยัน ผมจึงคิดว่าคลิปนี้เป็นประโยชน์มากๆสำหรับมือใหม่ที่ยังนับคลื่นไม่เป็น อาจดูยากหน่อย(ผมก็ยังงงอยู่) แต่ต้องดูหลายๆๆๆรอบเพื่อทำความเข้าใจให้ได้ในที่สุด


- เทคนิคการหาหุ้น Turnaround เป็นทริกการหาหุ้นที่เพิ่งหรือทำท่าจะจบเวฟสอง เพื่อเตรียมตัวทำเวฟสาม หลักการคือหาหุ้นที่ถูกขายต่อเนื่องยาวนานจนราคาลงมาถึงระดับฟีโบนาชี 61.8% (เหมือนกับท่านเน้นว่าถ้าราคาลงไม่ถึงระดับ 61.8% มันยังลงไม่จบเวฟสอง) แล้วก็มองหาสัญญาณการกลับตัว เช่น ดูการฟอร์มตัวของคลื่น หาสัญญาณ bullish divergence หรือแท่งเทียนแบบ contrary opinion ถ้าเจอก็ให้สัณนิษฐานว่ามันมีโอการ turnaround คือฟื้นตัวกลับไปขึ้นรอบใหม่อีกครั้ง



- Chaloke.com Gold 20150113 ลุงยกเคสกราฟราคาทองคำ ที่มันมีสัญญาณเริ่มต้นที่ Momentum oversold แล้วตามด้วย bullish divergence พอราคาฟื้นตัวขึ้นมาทำ overbought ครั้งแรกลุงก็ label เวฟ 1 ของการขึ้นรอบใหม่ (ในกราฟแรก ถ้ามองให้ดี จะเห็นว่าตอนที่ลุงใส่เวฟ 1 ราคามันอยู่ที่ก้นของการทำ cup with handle ยักษ์ โดยที่เวฟฟนึ่งยักษ์หรือ super grand cycle มันทำจบลงไปแล้ว ส่วนที่เป็นยอดนั้นแหละคือขอบถ้วย - นี่เป็นพิมพ์นิยมของหุ้นซิ่งสิบเด้งของบ้านเราด้วย ลองเช็คกราฟหุ้นซิ่งในตำนานดูก็ได้)
จากนั้นลุงก็ชี้ให้ดูรูปแบบราคาปัจจุบัน ก็พบว่ามัน oversold แล้วตามด้วย bullish divergence อีกครั้ง แสดงว่ามันกำลังจะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีกแล้ว เมื่อขยายดู time frame ระยะสั้นกว่า ก็พบว่ามันทำคลื่นครบแล้วทั้งการนับเวฟและฟีโบนาชี



- คุณลุงโฉลกวิเคราะห์ทอง วันที่ 18 8 2015 ความน่าสนใจอยู่ที่วิธีการหาจุดสิ้นสุดของการลง ในกรณีที่กราฟหุ้นไม่สามารถบอกจุดเริ่มต้นได้ ลุงก็ใช้ Fibonacci projection จากยอดลงมาเพื่อดูเป้าระดับราคาที่มันมีนัยยะ นั่นก็คือ 161.8% ถ้ารับอยู่ก็จะเด้ง แต่ถ้าหลุดก็ต้องไปรอที่ 261.8%
ต่อมาลุงก็พูดถึงการเด้งในขาลง โดยให้ดูตอนที่โมเมนตัม oversold มี big black ต่อด้วยโดจิ แล้วเกิด bullish divergence ท่านบอกว่าราคาจะเด้งชั่วคราว เกิดเป็นคลื่นย่อย 1-2-3 ต่อไปถ้าอยากรู้ว่ามันจะเด้งไปได้ไกลแค่ไหนก็ใช้ standard error channel หาแนวต้าน



- หุ้นซิ่ง ไม่ลิ่งก็ฟลอร์ RS ใช้หลักการ contrary opinion คือ สังเกตุ big black หรือ gap ที่เกิดในช่วงโมเมนตัม oversold เพื่อหาจุดกลับตัว ซึ่งมันก็คือจุดสิ้นสุดของเวฟสอง นั่นเอง พอระบุจุดจบได้ก็ใช้ fibonacci projection ขึ้นไปเพื่อหาราคาเป้าหมาย
ถ้าสังเกตุตอนที่ราคาหุ้นทำ contrary opinion คือ RSI oversold+big black ลุงโฉลกท่านได้ใส่หมายเลขคลื่นคือเวฟ 2

- การหาหุ้นซิ่ง โดยลุงโฉลก เป็นการหาหุ้นที่จะวิ่งแรงๆโหดๆ โดยดู next degree wave ที่มันทำเวฟใหญ่ 1-2 ไปแล้ว แต่ไม่มีแรงขึ้นไปทำเวฟ 3 ได้ แต่กลับวนเวียนทำ 1-2 เล็กลงซ้ำแล้วซ้ำอีก จาก Super Grand Cycle ลงมา Grand Cycle ลงมา Major Wave เล็กลงๆ ซึ่ง(ผมคิดว่า)น่าจะคล้ายกับการทำ complex correction wave ประเภท double/tripple three (อันนี้ผมเดานะ) พอถึงเวลาที่มันระเบิดก็จะเป็นหุ้นซิ่ง
และยังมีอีกทริกที่ท่านแถมคือการลงของเวฟสองใหญ่จะอยู่ที่ระดับฟีโบ 78.6% หรือระหว่าง 61.8-78.6%

- Chaloke Sambandaraksa pttgc ถ้าสังเกตุการ label คลื่นในขา C ท่านใส่ตั้งแต่ 1 จนถึง 4 แล้ว ต่อมาก็พูดถึงช่วงเกิด bear trap และ contrary opinion ก็คือช่วงปลาย เวฟ 5 มันเป็นจุดสิ้นสุดของเวฟ C นั่นเอง

- Wave 3 4 20150111 พูดถึงช่วงที่ราคาทำเวฟ 3-4 ก็คือช่วงที่เกิด correction ทำขา a-b-c ท่านสังเกตุพบว่าในขาขึ้น มันมักจะทำ C ยกเสมอในขาขึ้น แล้วพอทำเวฟห้าก็จะขึ้นไปได้ไกลมาก (อันนี้ผมคิดว่าน่าจะเข้าสูตร strong B กับ C fail นะ) ดังนั้นแทนที่จะเป็นช่วงคืนกำไร ถ้าดูเป็น ก็สามารถทำเงินได้ เพราะจบขา C ต่อไปก็คือเวฟ 5 ที่จะไปสูงกว่ายอดเวฟสามนั่นเอง

- THAI 20150111 การนับเวฟหุ้นขาลงสุดขีดอย่าง THAI ว่ามันถึงเวลาฟื้นแล้วเพราะราคาทำคลื่น 1-2 ของ grand cycle อย่างชัดเจนและถูกต้องตามกฎทุกประการ ที่สำคัญคือการลงครั้งใหม่ ในปี 2015 ไม่ทำนิวโลว์ จึงมีโอกาสสูงที่ราคาจะ turnaround

- ChalokeDotCom analysis of OISHI 20150111 การใช้ Fibonacci วัดระดับการจบ A-B-C คือการจบเวฟสองของ super grand cycle wave และเวฟสามที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็จะสูงกว่าเวฟหนึ่งที่ผ่านมาอย่างมากมาย โดยมีวิธีการคาดหมายจุดสิ้นสุดของเวฟ 2 คือการใช้ฟีโบนาชีเช็คระดับราคาว่าลงมาที่ระดับ 78.2% ซึ่งเป็นระดับสำคัญที่ควรเป็นจุดสิ้นสุดของเวฟนี้ จากนั้นก็เข้าไปดูใน time frame ย่อยเพื่อหาสัญญาณ contrary opinion เพื่อยืนยันว่าจบรอบขาลงจริงๆ

Update : 17/6/2559 ตัวอย่างการนับเวฟ
QHPF



CSS



MCOT



MILL Peak RSI จะตรงกับเวฟสามใน timeframe ใด timeframe หนึ่ง และจุดสิ้นสุดเวฟสองคือ retracement 61.8-78.6%



ปล. แนะนำให้ศึกษาวิธีคิดนะ เพราะหุ้นที่ท่านยกขึ้นมาเป็นเคสบางตัวก็ไม่เป็นไปตามที่คาด ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติเพราะไม่มีใครจะคาดถูกได้ตลอด (ซึ่งผมคิดว่านี่เป็นตัวอย่างที่ดีมากเลยนะที่สื่อว่าแม้แต่ระดับปรมาจารย์ก็ยังพลาด ดังนั้นการจำกัดความเสี่ยง โดยกำหนดจุด stop loss ทุกครั้งที่เข้าเทรด มันจำเป็นอย่างยิ่ง)

แต่เหนืออื่นใดที่อยากเน้นคือให้ศึกษาทฤษฎีที่ท่านนำเสนอให้มาก ถ้าเราดูซ้ำจนจับประเด็นได้แม่น เราก็จะเอาไปใช้ได้ตลอดชีวิตเลย เพราะแม้เวลาจะผ่านมานานแค่ไหนตลาดก็ไม่เคยเปลี่ยน ดังที่ ลิเวอร์มอร์ บอกไว้




(แนะนำเพิ่มเติม ของฟรี)
หากต้องการศึกษาวิธีเล่นหุ้น แนะนำให้ไปอ่านบทความฟรี คลิปฟรีที่นี่ก่อนก็ได้
เรียนเล่นหุ้น เรียนเทรด forex จิตวิทยาการเทรด มือใหม่เล่นหุ้น
คลิกลิ้งนี้ครับ https://www.zyo71.com/p/index.html เป็นสารบัญเว็บนี้ครับ







และ eBook มีขายที่เว็บ https://www.mebmarket.com/index.php?action=search_book&type=author_name&search=เซียว%20จับอิดนึ้ง&exact_keyword=1&page_no=1
แยกส่วนกันนะครับ ขายคนละเจ้า
ebook หนังสือสอนเล่นหุ้น

2 comments:

  1. This comment has been removed by a blog administrator.

    ReplyDelete
  2. รวบรวมได้ดีมาก อยากมาเรียน Elliott wave ตอนใหม่ไหมครับ มีทฤษฎีใหม่ๆคนพบมากมาย ที่เต็มแล้วแต่ถ้าคุณจะมาก็จะจัดที่ยืนให้ หรือถ้ามีคนไม่มาก็จะมีที่นั่ง มาเรียนแล้วจะได้เอาไปเขียนใหม่ให้ความรู้นักลงทุนเป็นวิทยาทาน
    www.chaloke.com

    ReplyDelete